การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ประชุมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเอกชน เพื่อหามาตรการช่วยเหลือ หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนหลายรายไปต่อไม่ไหว มีแนวโน้มต้องปลดแรงงานเพิ่มอีกประมาณ 2.5 ล้านคน ในไตรมาส 4
ตัวแทนธุรกิจท่องเที่ยวได้เสนอขอลดความช่วยเหลือด้านการเงิน เช่น การจ่ายเงินกู้ ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย การจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้าตามที่ใช้จริงต่อไปอีก 6 เดือน – 1 ปี และขอจ่ายเงินสมทบประกันสังคม 1% เป็นเวลา 1 ปี นับจากเดือนสิงหาคมนี้ จากเดิมที่จ่าย 5% พร้อมเสนอให้ตั้งกองทุนเฉพาะ ให้ผู้ประกอบการกู้มาเป็นทุนหมุนเวียน เพราะการกู้เงินกับธนาคาร มีหลักเกณฑ์ที่เข้มงวด ทำให้บางธุรกิจเข้าไม่ถึงเงินทุน
ส่วนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มีคนลงทะเบียนรับสิทธิแล้ว 4.5 ล้านคน มีการจองที่พักแล้วกว่า 300,000 สิทธิ จากทั้งหมด 500,000 สิทธิ แต่มีการเช็กอินเข้าพักน้อยเพียง 50,000 ห้อง ทำให้ธุรกิจยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ สาเหตุเพราะโรงแรมเพิ่งเปิดเดือนกรกฎาคม และเปิดเพียงแค่ 50% ส่วนวันหยุดยาวที่ผ่านมาในเดือนกรกฎาคม ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ไปท่องเที่ยว แต่กลับภูมิลำเนา เพราะบางส่วนยังกังวลกับโควิด-19 และมีรายได้ลดลง ทำให้ต้องใช้จ่ายอย่างรอบคอบ
ด้าน กรมอนามัย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกันกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย และการท่องเที่ยววิถีชีวิตใหม่ สำหรับผู้ประกอบการจำนวน 10 ประเภท เช่น โรงแรม บริษัทนำเที่ยว ร้านอาหาร เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ โดยขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนร่วมโครงการแล้ว 10,755 ราย ผ่านการประเมิน 4,159 ราย ซึ่งจะได้รับตราสัญลักษณ์ SHA เป็นตัวการันตี เพื่อสร้างความมั่นใจ ในการใช้บริการ
โดยกรมอนามัย ย้ำว่าผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด และหากพนักงานป่วยให้หยุดงานทันที