เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ศบค.เผยพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 7 ราย เป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย อียิปต์ 5 ราย และ สหรัฐอเมริกา 1 ราย เข้าพักใน State Quarantine รักษาหายเพิ่ม 2 ราย
วันนี้ (5 ส.ค.) แพทย์หญิง พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวันว่า วันนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโรคโควิด-19 รายใหม่ 7 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine กลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย อียิปต์ 5 ราย และสหรัฐอเมริกา 1 ราย
สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,328 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,444 ราย และตรวจพบใน State Quarantine จำนวน 391 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,144 ราย รักษาหายเพิ่ม 2 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 126 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
โดยผู้ป่วยรายใหม่ กลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 34 ปี อาชีพพนักงานนวด ถึงไทยวันที่ 29 ก.ค. 2563 เข้าพัก State Quarantine จ.ชลบุรี พบผู้ป่วยยืนยันที่เดินทางมาเที่ยวบินเดียวกัน 2 รายก่อนหน้านี้ วันที่ 2 ส.ค. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
กลับจากอียิปต์ 5 ราย เป็นหญิงไทย 1 ราย อายุ 21 ปี นักศึกษา และเป็นชายไทย 4 ราย อายุ 22, 23, 26 และ 30 ปี ทั้งหมดเป็นนักศึกษา ถึงไทยวันที่ 30 ก.ค. 2563 พบผู้ป่วยยืนยันที่เดินทางมาเที่ยวบินเดียวกัน 1 รายก่อนหน้านี้ เข้าพัก State Quarantine จ.ชลบุรี วันที่ 3 ส.ค. 2563 ผลตรวจพบเชื้อไม่มีอาการ
รายสุดท้ายกลับจากสหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นหญิงอเมริกัน อายุ 26 ปี ถึงไทยวันที่ 31 ก.ค. 2563 เข้า Alternative State Quarantine กรุงเทพมหานคร วันที่ 3 ส.ค. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง กทม.
โดยผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศทุกคนจะต้องถูกกักกันเพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการทุกรายเป็นเวลา 14 วัน และตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง หากพบว่าป่วยหรือติดเชื้อจะนำเข้าสู่ระบบการรักษาทันที
“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเป็นวงกว้างทั่วโลก รวมถึงบางประเทศที่ควบคุมการระบาดได้แล้วแต่กลับมาพบการระบาดในระลอกที่ 2 หรือ 3 อีกครั้ง ซึ่งเป็นบทเรียนที่สะท้อนว่าประเทศไทยอาจเกิดการแพร่ระบาดของโรคซ้ำได้อีก อย่างไรก็ตาม ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมมาตรการรองรับเพื่อดูแล รักษาประชาชนอย่างดีที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการรักษาคือการป้องกันโรค โดยประชาชนต้องร่วมมือกันป้องกันการติดเชื้อด้วยการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า จะช่วยให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด 19 ได้”
ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันนี้ยอดผู้ติดเชื้อรวม 18,701,672 ราย อาการรุนแรง 65,493 ราย รักษาหายแล้ว 11,915,331 ราย เสียชีวิต 704,365 ราย ซึ่ง 5 อันดับประเทศที่มีผู้ป่วยติดเชื้อสูงที่สุดอันดับแรกคือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 4,918,420 ราย อันดับ 2 บราซิล จำนวน 2,808,076 ราย อันดับ 3 อินเดีย จำนวน 1,906,613 ราย อันดับ 4 รัสเซีย จำนวน 861,423 ราย อันดับ 5 แอฟริกาใต้ จำนวน 521,318 ราย ส่วนประเทศไทยนั้นอยู่ที่อันดับ 112 จำนวน 3,328 ราย
ส่วนสถานการณ์ประเทศในเอเชียพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อินเดีย ซึ่งมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มถึง 849 ราย ยอดสะสม 39,820 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 1,906,613 ราย, ปากีสถาน เสียชีวิตเพิ่ม 15 ราย แต่ยอดสะสมถึง 5,999 ราย, บังกลาเทศ เสียชีวิตเพิ่ม 50 ราย สะสม 3,234 ราย, อินโดนีเซีย เสียชีวิตเพิ่ม 86 สะสม 5,388 ราย, ฟิลิปปินส์ เสียชีวิตเพิ่ม 11 ราย สะสม 2,115 ราย, ญี่ปุ่น มีผู้ติอเชื้อ 1,171 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย สะสม 1,016 ราย