นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจ เปิดเผยถึงกรณี นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ถึงเหตุการณ์ยิงกันในบ่อนย่านพระราม 3 ที่ระบุว่าบ่อนดังกล่าวมี “เฮียตี้” เป็นผู้ดูแล ซึ่งขณะนี้หลบหนีไปอยู่กับนายตำรวจ โดยนายชูวิทย์ระบุว่า เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากนายสันธนะอยู่ในวงการนักพนันเช่นเดียวกัน ทำให้มีข้อมูลหลายด้าน ถือเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการสืบสวนของตำรวจ
ส่วนประเด็นที่มีตำรวจยศ “พันตำรวจโท” อักษรย่อ ซ. ซึ่งนายสันธนะให้ข้อมูลว่า คือ สารวัตรหนุ่มนายหนึ่ง เป็นข้อมูลที่ตรงกันกับนายชูวิทย์ ซึ่งสารวัตรนายนี้ เป็นตำรวจรุ่นใหม่ มีส่วนพัวพันกับการพนันออนไลน์ และนอกจากสารวัตรหนุ่มนายนี้ ยังมีผู้ที่อยู่ในวงการพนันอีก 2 คน ร่วมด้วย โดยส่วนตัวมองว่าบ่อน “เฮียตี้” ที่เกิดเหตุ เป็นบ่อนที่กำลังจะปิดตัว แต่มาเกิดเหตุยิงกันจึงทำให้กลายเป็นที่สนใจ
ขณะเดียวกันบนหน้าเฟซบุ๊กของนายชูวิทย์ มีการแชร์ภาพบ่อนการพนันแห่งหนึ่ง พร้อมระบุว่าเป็นบ่อนพนันที่อยู่ในพื้นที่จังหวัด อักษรย่อ ช. ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ โดยภาพนี้มีผู้ส่งเข้ามาให้ หลัง นายเติมตระกูล กมลวิศิษฏ์นายเติมตระกูล กมลวิศิษฎ์ ลูกชายของนายชูวิทย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประกาศแจกเงินรางวัลให้กับผู้ที่ส่งคลิปวิดีโอ หรือภาพบ่อนในประเทศไทยมาให้ ซึ่งขณะนี้มีผู้ส่งข้อมูลเข้ามาเป็นจำนวนมาก อยู่ระหว่างเตรียมรวบรวมข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง