ฟุตบอลนัดพิเศษ เรียกความมั่นใจจากสถานการณ์โควิด-19 ที่จังหวัดระยอง ของภาครัฐ ผ่านพ้นไปแล้วครับ
หวังว่าเกมฟาดแข้งในครั้งนี้ จะส่งผลบวกต่อศึกลูกหนังไทยลีก ที่กำลังจะกลับมารีสตาร์ตกันในเดือนหน้า ตั้งแต่ 12 ก.ย.เป็นต้นไป
อย่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ก็คงจะได้ความชอบธรรมจากสังคม ในการที่จะเอางบหลวง ไปช่วยต่อลมหายใจให้กับฟุตบอลไทยกันบ้าง ไม่มากก็น้อย
ที่สำคัญ บทสรุปจากการจัดแมตช์สาธิตไทยลีกที่เกิดขึ้น น่าจะทำให้ ศบค.ได้มองเห็นโมเดลของการจัดบอลแบบ “นิว นอร์มอล” ที่มีคนดูเข้าสนาม แบบรักษาระยะห่างได้ชัดเจนขึ้น
เมื่อถึงเวลาที่บอลลีกไทย คัมแบ็กกันจริงๆ จะได้ปล่อยให้แฟนบอลบางส่วนเข้าไปดูได้บ้าง ซึ่งถือเป็นอีกทางที่จะช่วยให้สโมสรมีรายได้ขึ้นมา (บ้าง) ในยามวิกฤติอย่างนี้
อย่างที่ทราบกันว่า บอลนัดพิเศษที่ระยอง มีการถ่ายทอดสดให้ชมกันทั่วประเทศ ทางสถานีกีฬา “ทีสปอร์ต” (T Sports Channel) ของ กกท.ด้วย
ก่อนหน้าที่เกมนี้จะเริ่มขึ้น คุณศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ที่เพิ่งได้รับมอบหมาย ให้เข้ามารับหน้าที่รองผู้อำนวยการช่องทีสปอร์ตคนใหม่
ได้เชิญชวนให้แฟนกีฬา โหลดแอปพลิเคชัน T Sports Channel ทั้งระบบ iOS และ Android เพื่อจะได้มีโอกาส รับชมการถ่ายทอดสดบอลนัดนี้อย่างทั่วถึง
ขณะเดียวกัน ก็ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ช่องทางการรับชม “ทีสปอร์ต” ให้เข้าถึงผู้คนมากยิ่งขึ้นด้วย
หลังจากในช่วงเดือนเศษที่ผ่านมา ที่เข้ามารับตำแหน่งรอง ผอ.ของสถานีแห่งนี้ คุณศุกรีย์ ได้มองเห็นถึงปัญหาใหญ่ ที่ทำให้ช่องกีฬาของ กกท. ยังก้าวไปไม่ถึงไหนเลย ทั้งที่ก่อตั้งมาจวนจะครบ 12 ปีแล้ว
นั่นก็คือช่องทางในการรับชม ที่นับวันจะหาดูลำบากซะเหลือเกินกับช่องทีสปอร์ต ซึ่งไม่รู้ตอนนี้ไปซ่อนอยู่ในจานดาวเทียมสีไหน อย่างไรกันบ้าง?
ไม่เหมือนกับยุคแรกๆ ที่แชนแนลแห่งนี้เปิดตัวขึ้นมา และมีแพลตฟอร์มมารองรับหลากหลายช่องทาง จนทำท่าจะฮอตฮิตติดลมบนได้ไม่ยาก
จำได้ว่ายุคนั้น ตัวผมเองได้มีโอกาสมาเปิดซิง เป็นพิธีกรวิจารณ์บอลอยู่หน้าจอทีวีเป็นครั้งแรก ก็ทางช่อง “ทีสปอร์ต” นี่แหละ !!
ไม่ว่าจะเป็น รายการระดับตำนาน อย่าง “สายเลือดบอลไทย” หรือ “ส่องกล้องบอลไทย” รวมทั้ง “ชีพจรกีฬา”
ล้วนแล้วแต่เคยสร้างชื่อ ให้ทีสปอร์ตยุครุ่งโรจน์มาแล้วทั้งสิ้น
แต่ไม่น่าเชื่อ ว่าเมื่อวันเวลายิ่งผ่านไป แทนที่สถานีกีฬาของรัฐจะเติบโตขึ้น แต่ทุกอย่างกลับเป็นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
เอกชนกลุ่มแล้ว กลุ่มเล่า ที่เคยเข้ามาบริหาร ไม่มีเจ้าไหนเลย ที่ทำให้ชื่อของทีสปอร์ต โดดเด่นขึ้นมาได้อย่างที่ควรจะเป็น
หนำซ้ำ ยังแทบจะเงียบหายจากความรู้สึกของคอกีฬาไปเลย เพราะปัญหาใหญ่เรื่องการรับชม กลายเป็นอุปสรรคลำดับแรก
คุณศุกรีย์ บอกว่า นี่เป็นโจทย์ที่ กกท.ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน ถ้าคิดจะทำให้ ทีสปอร์ต ขึ้นมามีชื่อเฉกเช่นในอดีตอีกครั้ง
ไอ้เรื่องคุณภาพคอนเทนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะดีเลิศ ประเสริฐศรีเพียงใด สุดท้ายถ้าประชาชนเข้าไม่ถึง ทุกอย่างก็เอวัง !!
ดังนั้น การเริ่มยุคใหม่ของ “ทีสปอร์ต” จึงต้องเริ่มจากการเพิ่มช่องทางรับชมมาก่อนสิ่งอื่นใด
กกท. ต้องใช้ความได้เปรียบในฐานะองค์กรรัฐ เข้าไปคุยกับทาง กสทช. อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
ถึงโอกาสในการผลักดันให้ ทีสปอร์ต เข้าไปเป็นแชนแนลนึงใน “ดิจิทัลทีวี” ให้ได้ในอนาคต
ยิ่งระเบียบและกฎเกณฑ์ที่มีอยู่ มันเอื้อให้ กสทช. สามารถเปิดช่องกีฬาและสาธารณสุขได้ 1 ช่องด้วยแล้ว ยิ่งดีใหญ่
เพราะไหนๆ ปีหน้า กกท. ก็จ่ายเงินช่วยซื้อลิขสิทธิ์โอลิมปิกไปแล้วอย่างง่ายดาย
แถมไทยลีกฤดูนี้ ก็ส่อแววจะต้องเข้าไปช่วยสมาคมลูกหนังถ่ายทอดไปจนจบซีซั่นอีก
ดังนั้นก็เข็น “ทีสปอร์ต” นี่แหละครับ เป็น “ฟรีทีวี” น้องใหม่ของ “ช่องดิจิทัล” บ้านเรา มันซะเลย
รับประกัน..จากก้อนอิฐที่เคยได้รับ
จะเปลี่ยนป็น “ดอกไม้” ในบัดดล !!!
บี บางปะกง