สัมภาษณ์
เพิ่งเผชิญกับมรสุม “โควิด” รอบ 2 มาหมาด ๆ กับข่าวทหารอียิปต์ติดเชื้อไวรัสโควิดสำหรับภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง จากที่ก่อนหน้านั้น “ระยอง” เป็นจังหวัดที่ปลอดเชื้อมามากกว่า 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม ความเป็น “เมืองท่องเที่ยว” ของระยองก็ยังคงมีความโดดเด่นในความเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็น “ทะเลเดสติเนชั่น” ซึ่งสำหรับตลาดคนไทย “ระยอง” เป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่เป็นรองเพียงแค่พัทยา (ชลบุรี)และหัวหิน (ประจวบฯ) เท่านั้น
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้ร่วมสัมภาษณ์ “อรพรรณ เหล่าประภัสสร” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วิไลลักษณ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารโรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา (Rayong Marriott Resort & Spa) โรงแรมระดับ 5 ดาว ริมทะเลหาดแม่พิมพ์ถึงทิศทางการดำเนินงาน และแผนการฟื้นฟูของโรงแรมไว้ดังนี้
“อรพรรณ” บอกว่า โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นโรงแรมที่พักริมหาดระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่บนแหลมแม่พิมพ์ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและทัศนียภาพของทะเล และหาดทรายแก้วส่วนตัวที่เงียบสงบ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันสอดรับกับแนวทางการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองที่เต็มไปด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ
โดยโรงแรมแห่งนี้ได้กลับมาเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมมาตรฐานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยที่มีมากกว่าข้อกำหนดของหน่วยงานรัฐ หลังจากที่ปิดชั่วคราวไปราว 3 เดือนพร้อมทั้งเน้นการทำการตลาดบนช่องทางออนไลน์ ทั้งที่เป็นเว็บไซต์ของตัวเอง และ OTA ต่าง ๆ ซึ่งพบว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ยอดการจองห้องพักในช่วงวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์แน่นตลอด กระทั่งมาเจอเหตุการณ์ทหารอียิปต์ทำให้ลูกค้ายกเลิกห้องพักไปอีกครั้ง ตอนนี้ก็รอลุ้นว่ารัฐบาลจะมีมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในรูปแบบ travel bubble เมื่อไหร่ และจะเป็นอย่างไรต่อไป
“ส่วนตัวเห็นด้วยถ้ารัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบ travel bubble หากเรามีวิธีการจัดการที่ดี ประชาชนมีองค์ความรู้ และมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ไม่เช่นนั้นเราก็อยู่กันแบบนี้” อรพรรณย้ำ
พร้อมบอกด้วยว่า คนทำธุรกิจต้องเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือและแก้ปัญหาไปเรื่อย ๆ ให้ได้ เพราะไม่รู้ว่าหลังจากจบเรื่องไวรัสโควิดแล้วอาจมีเรื่องอื่น ๆ ตามมาอีก ดังนั้นเราต้องมองหาโอกาสในวิกฤตแต่ละครั้งให้ได้ด้วย
“อรพรรณ” บอกด้วยว่าสำหรับ “ระยอง แมริออทฯ” นั้นกลุ่มลูกค้ามีทั้งส่วนที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติและกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยในสัดส่วนประมาณ 50/50การที่รัฐบาลยังไม่เปิดน่านฟ้ารับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา โรงแรมแห่งนี้ก็ไม่ได้เหนื่อยมาก เพราะอีกขาหนึ่งยังมีฐานลูกค้ากลุ่มคนไทยที่พอจะช่วยประคับประคองให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ เพียงแต่ไม่สามารถทำราคาขายได้ในอัตราเดิม เนื่องจากที่ผ่านมาโรงแรมกำหนดราคาขายตามดีมานด์-ซัพพลายของตลาดเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดรับกับแผนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่เตรียมผลักดันให้ระยองเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยม หรือ luxury destination ทางโรงแรมก็ได้เตรียมพร้อมสำหรับการขยายกลุ่มเป้าหมายด้วยการพัฒนาและยกระดับโปรดักต์และบริการให้มีความเป็นลักเซอรี่ขึ้นด้วยเช่นกันอาทิ มีแผนจับมือกับพันธมิตรที่มีเรือยอชต์อยู่แล้ว ให้บริการเรือยอชต์
สำหรับการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปีนี้ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว “ระยอง” และพักที่ “ระยอง แมริออทฯ” ได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ ๆ
“สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าพักที่แมริออท เพราะเรามีโลเกชั่นที่สวยงาม มีชายหาดติดทะเล โดยเฉพาะทรายบริเวณหน้าหาดจะเป็นทรายแก้วที่ละเอียดและสวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อม ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าพัก ทั้งห้องพักที่มีหลากหลายรูปแบบถึง 205 ห้อง ห้องประชุม สัมมนา จัดเลี้ยง ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง, ศูนย์รวมสปาและสุขภาพ, คลับสำหรับเด็ก, สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และสไลเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก รวมถึงห้องอาหารและบาร์มากถึง 5 แห่ง”
“อรพรรณ” ทิ้งท้ายด้วยว่า โรงแรมระยอง แมริออทฯ อยู่ห่างจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพียง 25 กิโลเมตร และห่างจากเมืองพัทยา (ชลบุรี) แค่ 90 กิโลเมตร สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบาย ทางโรงแรมยังมีบริการรถรับส่งไป-กลับ จากกรุงเทพฯและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย
นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังได้เข้าร่วมในโครงการเที่ยวปันสุขสำหรับแพ็กเกจ “เราไปเที่ยวกัน” เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าพักในโรงแรมระดับ 5 ดาวซึ่งทางโรงแรมตั้งใจมอบเป็นของขวัญให้คนไทย เพื่อต้อนรับการกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง