วันศุกร์ ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 08.00 น.
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี ฉลองการได้แชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างยิ่งใหญ่สมค่าแห่งการรอคอยหลังจากไล่ถลุง “สิงห์บลูส์” เชลซี ไปอย่างสนุก 5-3 พร้อมกับงานฉลองแชมป์หลังการแข่งขันที่สนามแอนฟิลด์ ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่22 กรกฎาคมที่ผ่านมา
พิธีมอบแชมป์นั้น เซอร์เคนนี่ ดัลกลิช ผู้ที่นำ ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ครั้งล่าสุด เมื่อ 30 ปีก่อน ถือถ้วยมาพร้อมกับริชาร์ด มาสเตอร์ส ซีอีโอของพรีเมียร์ลีกที่จัดขึ้นเป็นพิเศษฝั่งค็อป สแตนด์ ก่อนจะมีการมอบเหรียญรางวัลให้กับคณะนักบอลและทีมงาน โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือขึ้นมาเป็นคนแรกและจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมขึ้นมาเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะชูถ้วยแชมป์ที่รอคอยมานานถึง 3 ทศวรรษ ท่ามกลางแสงสีเสียงที่ตระการตา
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมต่อต้านเด็กบู ฟื้นฟูเฮฟวี่ เปิดเผยว่า ได้เวลาที่เดอะ ค็อป จะฉลองด้วยกัน, อยู่บ้านอย่างปลอดภัย และดื่มให้เต็มที่ตามที่คุณต้องการ แล้วหลังจากหมดเชื้อโควิด-19 เราจะฉลองด้วยกัน
“จะให้พูดอะไรดีนะเหรอ เอาเป็นว่า นี่คือการทำเพื่อทุกคน ผมเชื่อว่าทุกคนมองเห็น เมื่อ 5 ปีก่อน ผมขอให้คุณมีความเชื่อมั่น จากข้อกังขาต่างๆ มากมาย แล้วพวกคุณก็ทำได้ ขอบคุณทุกคนอย่างมากที่ทำให้ทุกอย่างมาในทิศทางเดียวกัน
30 ปีที่รอคอย : “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ฉลองแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019/20 อย่างยิ่งใหญ่ นับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19 ของสโมสร ขณะที่บริเวณหน้าสนาม แอนฟิลด์ เหล่าแฟนบอลมาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง
“เราจะมีปาร์ตี้กันอย่างแน่นอน แต่คุณต้องรอให้ไว้รัสบ้าบอนี้ผ่านพ้นไปก่อน และเมื่อถึงตอนนั้นคุณเตรียมตัวได้เลย สำหรับผมตลอดรอบปีที่ผ่านมาเราได้แชมป์ 4 รายการ มันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก โดยปกติแล้วผมจะไม่ถ่ายรูปตัวเอง แต่ครั้งนี้ผมต้องถ่ายเก็บเอาไว้ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักกับตำแหน่งแชมป์นี้”
ขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมจอมทุ่มเท กล่าวว่า นี่คือเวลาที่รอคอยนี้มันจบแล้ว ผมรอมายาวนานกับการเดินทางอันสุดวิเศษ และสุดมหัศจรรย์ของพวกเรา เพราะถ้วยนี้คือความฝันของผมตั้งแต่เด็กๆ ซึ่ง 1 ในเหตุผลของการย้ายมา ลิเวอร์พูล ของผมก็ด้วยเหตุผลนี้
“ผมเดินขึ้นมารับถ้วยรางวัลด้วยหัวใจที่ตื่นเต้น มันมหัศจรรย์มาก ความทรงจำแบบนี้ โมเมนท์แบบนี้มันยิ่งใหญ่ และผมขอขอบคุณครอบครัวที่เคียงข้างผม การเฉลิมฉลองแชมป์ครั้งนี้พิเศษอย่างที่สุดจริงๆ”
“เรามีทีมที่ยอดเยี่ยมมากๆ ใน 3 ปีหลังนี้ ทุกคนช่วยให้ผมพัฒนาขึ้นมาได้เยอะ ผมขอยกเครดิตให้กับทุกคน และผมโชคดีอย่างมากๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้”
สำหรับแชมป์ทั้ง 19 สมัย ของ ลิเวอร์พูล มีดังนี้ 1900-01,1905-06, 1921-22, 1922-23, 1946-47, 1963-64,1965-66, 1972-73, 1975-76, 1976-77, 1978-79, 1979-80, 1981-82, 1982-83, 1983-84, 1985-86, 1987-88, 1989-90 และ 2019-20
ขณะเดียวกัน ตำรวจเมอร์ซี่ย์ไซด์ ไม่สามารถควบคุมฝูงชนแฟนบอลที่ออกมารอบๆ สนามแอนฟิลด์ หลังจากอดทนรอคอยแชมป์นี้มาอย่างยาวนาน พร้อมกับมีการจุดพลุไฟอยู่หลายครั้ง ตลอดการแข่งขัน แม้จะมีการเตือนเรื่องกลัวผู้คนออกมาแล้วจะติดโควิด-19 แต่ด้วยความอัดอั้นที่รอแชมป์มานานทำให้แฟนบอลแห่กันมาที่รอบ ๆ แอนฟิลด์หลายพันคน
ทางด้านการลุ้นพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยังคงระอุและต่อเนื่องต่อไป เมื่อ แมนฯยูไนเต็ด ทำได้แค่เสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในบ้านตัวเอง 1-1 ทำให้ แมนยูฯ แม้จะขึ้นไปอยู่ที่ 3 เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้นับจากนัดแรกของการแข่งขัน แต่ก็ยังต้องลุ้นหนักกันต่อไปในเกมสุดท้าย ที่พวกเขาจะยกพลไปดวลกับ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งตอนนี้ แมนยูฯ มี 63 แต้มประตูได้เสีย บวก 28, เชลซี 63 แต้มเท่ากัน แต่ประตูได้บวก13 ลูก และ เลสเตอร์ 62 แต้ม ประตูบวก 28