วันพฤหัสบดี ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ของประเทศญี่ปุ่น เตรียมนับถอยหลังเข้าสู่ 1 ปีในการเป็นเจ้าภาพ โดยเริ่มแข่งขันในวันที่ 23 กรกฎาคม ไปจนถึง 8 สิงหาคม 2021 หลังจากกำหนดเดิมต้องเลื่อนออกไปในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้เพราะติดปัญหาเรื่องไวรัสโควิด-19
เจ้าภาพมีการวางแผนจัดกิจกรรมหลายอย่างเพื่อฉลองโอกาสนี้ ซึ่งรวมถึงการปล่อยแคมเปญ #StrongTogether เพื่อรณรงค์ให้ตระหนักถึงความสำคัญของความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในช่วงเวลายากลำบาก โดยใช้งบประมาณไปกว่า 2 แสนล้านบาท เป็นเม็ดเงินที่ไม่เพียงแต่ภาครัฐ แต่ภาคเอกชนก็เข้ามาเอี่ยวด้วยอีกกว่า 90,000 ล้านบาท ในการร่วมกันพัฒนากิจการทั้งระบบ ในเรื่องของสนามแข่งขัน, ระบบการคมนาคม รวมไปถึงการสร้างรถไฟขึ้นมาใหม่ พร้อมกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะโชว์ให้คนทั่วโลกได้เห็นในครั้งนี้
โดยเจ้าภาพได้เตรียม รถยนต์บินได้,สนามกีฬาแห่งชาติใหม่ (New National Stadium)สนามโตเกียวอควอติก เซ็นเตอร์ (ว่ายน้ำ), อาเรียเกะอารีนา (วอลเลย์บอล) ซึ่งเป็นสนามป้องกันแผ่นดินไหว, ทีมหุ่นยนต์ผู้ช่วยภาคสนาม, รถบัสพลังงานไฮโดรเจนแทนน้ำมัน, เหรียญผลิตจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงเทคโนโลยี 3DATหรือ 3D Athlete Tracking ในสนามกรีฑาเป็นอาทิ
ทางด้าน โยชิโร โมริ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน “โตเกียว 2020” และ โตชิโร มูโตะ ซีอีโอประจำการแข่งขัน ยืนยันว่า สนามแข่งขันทั้งหมด 43 สนาม รวมถึงหมู่บ้านนักกีฬา, ศูนย์ถ่ายทอดสดนานาชาติ และศูนย์หลักของสื่อมวลชน ทุกอย่างนั้นพร้อมแน่นอน
ทั้งนี้นับตั้งแต่กีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ครั้งแรกในปี 1896 มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนถูกยกเลิกเพียง 3 ครั้งเท่านั้น เพราะสงครามโลก ครั้งที่ 1 กับ 2 ประกอบด้วย ปี 1916 ที่กรุงเบอร์ลิน, ปี 1940 ที่กรุงโตเกียว และ ปี 1944 ที่มหานครลอนดอน
ในปี 1940 ญี่ปุ่น กำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ฤดูร้อน (Summer Olympics) และกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว (Winter Olympics) ถือเป็นชาติแรกของเอเชียที่ได้จัดมหกรรมกีฬาฤดูร้อน และจะเป็นชาติแรกของโลกที่ได้จัดโอลิมปิกร้อน-หนาว ในปฏิทินเดียวกัน แต่ความมุ่งหมายในครั้งนั้นก็ไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากพวกเขาถอนตัวในปี 1938 ก่อนจะเข้าสู่สงครามโลก ครั้งที่ 2 อย่างเต็มตัว