เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
กาญจนบุรี – ผู้ว่าฯ กาญจน์ สั่งเร่งบูรณะซ่อมแซมยอดพระเจดีย์หอพระประวัติฯ เสริมความแข็งแรงตามมาตรฐานหลักวิศวกรรม หลังถูกพายุพัดถล่มจนหักโค่น พร้อมเชิญชวนผู้มีจิตกุศลร่วมสมทบทุน
จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์พายุฝนพัดโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จนทำให้ยอดพระเจดีย์หอพระประวัติฯ ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดเทวสังฆาราม (พระอารามหลวง) หรือวัดเหนือ ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี ริมแม่น้ำแควใหญ่ด้านทิศตะวันออก ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมจิตใจพุทธศาสนิกชนชาวกาญจนบุรี ถูกพัดพังถล่มลงมา ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมาตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดวันนี้ ( 21 ก.ค.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการให้ นายเสกสม ลินดาพรประเสริฐ ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมวิศวกรโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบและสำรวจความเสียหายอย่างละเอียด เพื่อเตรียมดำเนินการบูรณะหอพระประวัติฯ โดยมีท่านเจ้าคุณพระกิตติสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง (วัดเหนือ)นำสำรวจพื้นที่
เบื้องต้นจะบูรณะซ่อมแซมในส่วนที่ได้รับความเสียหาย และเสริมในส่วนที่ชำรุดให้มีความมั่นคงแข็งแรงขึ้นตามมาตรฐานหลักวิศวกรรมที่ได้คำนวณไว้ โดยจะดำเนินการเปลี่ยนโครงเหล็กยอดพระเจดีย์จากเหล็กกล่อง เป็นเหล็กฉากชุบซิงค์ ส่วนตัวหุ้มยอดพระเจดีย์ก็จะเปลี่ยนจากไฟเบอร์กลาส เป็นเหล็กแผ่นพ่นสีรถยนต์
ส่วนการปรับใหม่ทั้งหมดไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจะทำให้กระทบโครงสร้างรวมของเจดีย์ทั้งหมด นอกจากนี้ท่านเจ้าคุณพระกิตติสุวัฒนาภรณ์ ได้ขอให้ซ่อมแซมและทาสีหอพระประวัติใหม่ทั้งอาคาร
นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เผยว่า ตามที่ตนได้ระบุว่าการบูรณะซ่อมแซมยอดพระเจดีย์หอพระประวัติ รวมทั้งปรับปรุงตัวอาคาร จะไม่ใช้งบประมาณของราชการ เนื่องจากมีผู้มีจิตกุศลยินดีช่วยจังหวัดนั้น บุคคลดังกล่าวคือ นางลำใย สิริเวชชะพันธ์ หรือที่เราเรียกกันว่า คุณแม่ลำใย อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งได้แจ้งตนว่า ให้ผู้ว่าฯ ทำการซ่อมแซมในทันที โดยท่านจะประกันค่าใช้จ่าย โดยจะรวบรวมจากญาติมิตร ลูกศิษย์ลูกหา ได้เท่าไรท่านจะเติมให้จนครบเอง
ในการนี้ตนจึงสมทบคุณแม่ในเบื้องต้น 1 แสนบาท ซึ่งหากท่านใดมีจิตกุศลในการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ เชิญสมทบได้ที่บัญชี นางลำใย สิริเวชชะพันธ์ ธนาคารกรุงไทย สาขากาญจนบุรี เลขที่บัญชี 713-0-86032-4 และขออนุโมทนาบุญ มา ณ โอกาสนี้
“อย่างไรก็ตามตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดเข้าดำเนินการบูรณะซ่อมแซมในส่วนที่ได้รับความเสียหายให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์” นายจีระเกียรติ เผย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักพร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตในเรื่องของคุณภาพการก่อสร้าง เนื่องจากตรวจสอบโครงสร้างของยอดพระเจดีย์ที่หักโค่นลงมาพบว่า โครงสร้างไม่มีความแข็งแรง โดยจุดเชื่อมของเหล็กถูกเชื่อมไว้เพียงเล็กน้อย และเหล็กก็มีสภาพเก่าผุพังถูกสนิมกินทั้งหมด ทั้งๆ ที่ก่อสร้างเสร็จได้เพียง 7 ปี เท่านั้น อีกทั้งใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวนมาก
สำหรับหอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร ตั้งอยู่บริเวณวัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง (วัดเหนือ) โดยจังหวัดกาญจนบุรี คณะสงฆ์และทุกภาคส่วนร่วมกันจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งมีชาติภูมิเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี ในโอกาสที่ทรงพระชันษาครบ 8 รอบ 96 ปี และเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา การศึกษาอบรม การปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาและที่พักผ่อนของประชาชน
โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2553 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2556 ใช้งบประมาณในการดำเนินงาน 126,799,298.20 บาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และเงินบริจาคของประชาชน
อาคารหอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 38 ไร่ ลักษณะเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ชั้น รูปทรงไทย ยอดเจดีย์พร้อมศาลาราย 4 ทิศ มีซุ้มประตูเข้า – ออก 4 ด้าน
ยอดด้านบนสุดมีลักษณะเป็นรูปฉัตรประจำพระองค์ ภายในอาคารมีการจัดนิทรรศการ ชั้นที่ 1 นิทรรศการแผ่นดินทองผู้ครองธรรม สังฆราชามหาสมณะแห่งกรุงรัตนโกสินทร์และรอยธรรมนำทางย่างสู่ความเจริญพร้อม ชั้นที่ 2 นิทรรศการพระศาสนกิจ พระกรณียกิจทางศาสนาและสมศักดิ์แห่งอัครสงฆ์ ชั้นที่ 3 นิทรรศการธรรมปฏิปทา วิปัสสนากรรมฐาน พระรูปหล่อพระอุปัชฌาย์และขั้นที่ 4 เป็นจุดชมทัศนียภาพ