นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางไปให้กำลังใจทีมแบดมินตันไทยถึงสนามฝึกซ้อมสวนลุมพินี พร้อมผลักดันให้คว้าโควตาไปโอลิมปิกปีหน้า เพิ่มอีก 2 ที่นั่ง
วันที่ 8 ก.ค. 63 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ การฝึกซ้อมของนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย ที่สนามแบดมินตันของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ สวนลุมพินี หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงกว่าเดิม ทำให้นักกีฬาสามารถกลับมาฝึกซ้อมร่วมกันอย่างจริงจังได้อีกครั้ง
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “จากสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้การแข่งขันแบดมินตันรายการต่างๆ ถูกยกเลิกทั้งหมด นับตั้งแต่ รายการสุดท้าย คือ ออลอิงแลนด์ ในช่วงกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยสหพันธ์แบดมินตันโลก กำหนดจะเริ่มทำการแข่งขันอีกครั้ง ในต้นเดือน ก.ย.ที่ไต้หวัน และหลังจากนั้น จนถึงสิ้นปี จะมีรายการแข่งขันติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง”
“ที่ผ่านมา สมาคมกีฬาแบดมินตันฯ ได้ให้นักกีฬาฝึกซ้อมที่บ้าน ผ่านการควบคุมของผู้ฝึกสอน ทางออนไลน์ จนกระทั่ง รัฐบาลประกาศให้สนามแบดมินตัน เปิดดำเนินการได้ นักกีฬาจึงได้กลับมารวมตัวฝึกซ้อมเต็มที่อีกครั้ง ซึ่งสมาคมฯ ได้ดำเนินการฝึกซ้อม และเตรียมจัดการแข่งขันตามคู่มือจัดการแข่งขัน ที่ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องทุกคน”
“สำหรับการแข่งขันภายในประเทศ สมาคมฯ เตรียมที่จะจัดการแข่งขันแบดมินตัน โตโยต้า เยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 4-8 ส.ค. 2563 และการแข่งขันแบดมินตัน โตโยต้า ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 9-13 ส.ค. 2563 ที่แจ้งวัฒนะฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ”
คุณหญิงปัทมา กล่าวต่อว่า “ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ตั้งเป้ามุ่งหวังในการสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้กับวงการแบดมินตันไทย มาเป็นระยะ เช่น เป็นเจ้าเหรียญทองแบดมินตันในกีฬาซีเกมส์ ปี 2017, ได้รองแชมป์โลกในประเภททีมหญิง ชิงแชมป์โลก ปี 2018, คว้าเหรียญรางวัล ถึง 3 ประเภทในแบดมินตันชิงแชมป์โลก ปี 2019, ชนะเลิศทีมผสมเยาวชนชิงแชมป์เอเซีย และคว้าเหรียญทองชายเดี่ยวเยาวชนชิงแชมป์โลก 3 สมัยติดต่อกัน เกียรติประวัติเหล่านี้ เกิดขึ้นจากการพัฒนา อย่างต่อเนื่อง ในการฝึกซ้อมทุกด้าน ผ่านงบประมาณความช่วยเหลือจาก กกท. อาทิ การจ้างผู้ฝึกสอนกีฬาแบดมินตันระดับโลก, การจ้างนักวิทยาศาสตร์การกีฬาระดับโลก และการปรับปรุงห้องฟิตเนสเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับนักกีฬา”
“ทั้งนี้ เป้าหมายใหญ่ สำหรับสมาคมกีฬาแบดมินตัน นับจากนี้ไปคือ การคว้าเหรียญรางวัล ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียวเกมส์ ปีหน้า เพื่อสร้างความสุขให้แก่แฟนกีฬาชาวไทยทั้งประเทศ และจนถึงขณะนี้ การคัดเลือกนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมโอลิมปิก ยังไม่จบสิ้น แต่นักกีฬาแบดมินตันไทย ผ่านการคัดเลือก เข้าร่วมโอลิมปิก แน่นอนแล้ว 6 คน จากชายเดี่ยว 1 คน กันตภณ หวังเจริญ, หญิงเดี่ยว 1 คน รัชนก อินทนนท์, หญิงคู่ 2 คน รวินดา ประจงใจ กับ จงกลพรรณ กิตติธารากุล, คู่ผสม 2 คน เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย โดยสมาคมฯ พร้อมที่จะผลักดันนักกีฬาให้ผ่านการคัดเลือกเพิ่มเติมอีก 2 คน จาก ชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว ประเภทละ 1 คน”
“นอกจากนี้ จากการประกาศเลิกเล่นของ หลิน ตัน สุดยอดนักตบลูกขนไก่ของโลกชาวจีน ถือเป็นสัญญาณที่นำไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของแบดมินตันชายเดี่ยว ซึ่ง กันตภณ หวังเจริญ และ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ จะได้มีโอกาสแสดงฝีมือต่อไป” คุณหญิงปัทมา กล่าวในตอนท้าย