เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – ตำรวจ สภ.ครบุรี โคราช รวบแก๊งแชร์ลูกโซ่ “แม่แพรว” ฉ้อโกง ปชช.หลอกนำเงิน ทองคำมาลงทุนได้ผลตอบแทนสูง 60% ได้ผู้ต้องหา 2 ราย หลังเหยื่อกว่า 25 รายโร่แจ้งจับสูญหลายล้าน รันทดเหยื่อมีทั้ง นศ.-คนชรานำเงินยังชีพมาลงทุน บุกค้นร้านพบหลักฐานเพียบ ทั้งตั๋วจำนำกว่า 10 ล้าน และยึดทรัพย์หลายรายการ ทั้งบ้าน รถยนต์ โฉนดที่ดิน คาดมีเหยื่ออีกอื้อ
วันนี้ (20 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา น.ส.สุพรรณิการ์ สังวัทยาย, น.ส.วิไลวรรณ ช่างกระโทก และ น.ส.โฉมศิริ โสปกระโทก ชาว อ.ครบุรี พร้อมพวกรวม 25 คน ที่ได้รับความเสียหายจากการนำเงินและทองคำไปลงทุนกับ น.ส.สุนันท์ หรือแม่แพรว สังข์ทองกลาง ที่อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนถึง 60% ของเงินลงทุน เมื่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด จึงเดินทางมาติดตามความคืบหน้า หลังแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ศุภเชษฐ นวจินดาพงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.ศุภเชษฐ นวจินดาพงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี เปิดเผยว่า น.ส.สุนันท์ หรือแม่แพรว สังข์ทองกลาง กับพวก ได้มีการโฆษณาชวนเชื่อผ่านทางเฟซบุ๊ก ชื่อ “ช่างรุ่งเรือง คนรักรถ” ให้คนรู้จักหรือประชาชนทั่วไปนำเงินสดหรือทองคำมาร่วมออมเงินโดยจะได้ดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 60 ต่อเดือนของเงินลงทุน มีผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อจึงได้นำเงินสดและทองคำไปร่วมฝากออมเพื่อได้ดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทนตามคำโฆษณา บางรายเป็นนักศึกษานำเงินที่กู้ยืมจากการเรียนมาลงทุน แม้กระทั่งผู้สูงอายุที่ได้เบี้ยยังชีพทุกเดือนก็เก็บไว้เป็นก้อน ถอนออกจากธนาคารเพื่อนำเงินมาลงทุน
ประกอบกับในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ประชาชนขาดรายได้เห็นว่านำเงินมาลงทุนกับ น.ส.สุนันท์ ได้ผลตอบแทนสูงก็ยอมเสี่ยง โดยมีตั้งแต่หลักพันยันหลักแสนบาท มูลค่าความเสียหายมากกว่า 2.5 ล้านบาท และเชื่อว่าจะมีประชาชนอีกหลายรายที่ถูกคนกลุ่มนี้หลอกให้มาลงทุนแต่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความ
สำหรับรูปแบบการหลอกลวงของกลุ่มนี้คือจะไลฟ์สดผ่านทาง face book โดยนำเงินกองโต และทองรูปพรรณมาโชว์เพื่อเรียกคนดู และจะพูดอวดอ้างว่าให้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 60 และจะให้ตั้งทีมขึ้นมา ผู้ที่แนะนำเพื่อนมาจะได้ 20% ของวงเงินลูกทีม เมื่อผลตอบแทนสูงจึงทำให้คนมาลงทุนมาก ช่วง 1-2 เดือน ได้ผลตอบแทนดี จากนั้นมีการบ่ายเบี่ยงเหตุผลต่างๆ นานา ที่จะไม่จ่ายค่าตอนแทนจนทำให้ผู้เดือดร้อนกลุ่มนี้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดนครราชสีมาไปทำการค้นร้านรุ่งเรืองยนต์ ลิสซิ่ง ของผู้ต้องหา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลแชะ หมู่ 4 ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ค้นพบหลักฐานบัญชีการออมเงิน และใบเสร็จรับเงิน หลักฐานตั๋วจำนำหลายสิบใบที่คาดว่าผู้ต้องหาได้เอาทองคำที่ผู้เสียหายนำไปออมเพื่อได้ดอกเบี้ยกับผู้ต้องหาไปจำนำไว้ที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งมีมูลค่าตามตั๋วจำนำเกือบ 10 ล้านบาท และได้ตรวจยึดรถยนต์ จักรยานยนต์ ที่เชื่อว่าผู้ต้องหาได้มาจากการฉ้อโกงจำนวนหลายคันไว้ทำการตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน คือ น.ส.สุนันท์ หรือแม่แพรว สังข์ทองกลาง อายุ 40 ปี ชาว ต.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ และ น.ส.จิรภา หรือเหมียว ใจงูเหลือม ชาว อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ให้กู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนปีละ 720% และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 พร้อมติดตามยึดทรัพย์สินอีกหลายรายการที่เชื่อว่ามาจากการฉ้อโกงประชาชน ทั้งโฉนดที่ดินที่ผู้ต้องหานำมาอวดอ้างในช่วงการไลฟ์สด บ้าน และทรัพย์สินอื่นๆ ไว้แล้ว และยังอยู่ระหว่างสอบสวนดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องอีกหลายราย โดยผู้ต้องหาประกันตัวออกไปด้วยวงเงินคนละ 7.5 แสนบาท
จากการติดตามเฟซบุ๊กของผู้ต้องหายังมีการปลุกระดมมวลชนที่เป็นลูกออมหรือลูกทีมที่รอกำหนดจะได้รับเงินคืน โดยอ้างว่าผู้ต้องหาไม่ได้กระทำผิดและขณะนี้เงินถูกเจ้าหน้าที่ยึดไว้ตรวจสอบ ให้ลูกทีมรอไปก่อนอย่างไรก็ตามฝากเตือนประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งนี้ให้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะได้ดำเนินคดีต่อไป