แบดบอย เมืองไทย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกซะจาก “เจ้าจ็อบ” ชายชาญ เขียวเสน อดีตกองหน้าทีมชาติไทย แห่งทีม “ลูกประดู่ ” ราชนาวี สโมสร นั่นเอง
ฉายาดังกล่าวไม่ได้มาแบบข้อกล่าวหาหรือโดนยัดเยียดแต่คือตัวตนที่แท้จริงของ “ชายชาญ เขียวเสน” ที่ใครก็รู้ดีถึงกิตติศัพท์ของเขาว่า เกเร ขนาดไหน
อดีตนักเตะ”ตะหานน้ำ” ราชนาวี ผู้นี้ ไม่มีใครเถียงความไม่ธรรมดาในฝีเท้าของเขา ขนาดกองหน้าอย่าง “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ยังเอ่ยปากพูดถึงนักเตะรุ่นน้องรายนี้ว่า “ไอ้จ็อบ” มันนักเตะประเภท “พรสวรค์”แต่แม้จะพรสรรค์ ดีขนาดไหน แต่ก็ต้องมีด้านลบอยู่เหมือนเหรียญย่อมต้องมี 2 ด้าน เพราะความเกเรของ “เจ้าจ็อบ” ทำให้จริงแล้วเขาน่าจะไปได้ไกลกว่านี้
วันนี้กลับอายุเกินหลักสี่มาแล้ว “จ็อบ” มีหน้าที่การงานที่มั่นคงทำกับการเป็นข้าราชการทหาร แห่ง กองทัพเรือ โดยเมื่อปี พ.ศ.2562 ที่ผ่านมาเจ้าตัวเพิ่งได้ครองยศเป็นนายทหารสัญญาบัตร มีดาวประดับบนบ่าหลังรับราชการมาเกือบ 30 ปี ก่อนหน้าจะเป็นเรือตรีนั้น “เจ้าจ็อบ” มียศพันจ่าเอก สังกัดกองเรือยุทธการ ตำแหน่งพันจ่าช่างกลเรือหลวงเจ้าพระยาโดยปัจจุบัน ตำแหน่งประจำกำลังพลฟริเกต 1
“เจ้าจ็อบ”เป็นอดีตนักเตะราชนาวี ที่เดินตามรอยรุ่นพี่ที่รับราชการอยู่หลายคน ทั้ง สุรศักดิ์ ตังสุรัตน์, สุขสันต์ คุณสุทธิ์ , สมศักดิ์ อักษร , เอกรัตน์ ทรัพย์สิน , ปิยะกุล แก้วน้ำค้าง
น่าจะเป็นการเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนายทหารเรือ ที่”เจ้าจ็อบ” มีคุณพ่อรับราชการ ทหารเรือ อย่าง เรือเอกสว่าง เขียวเสน นั่นเอง ทำให้”เจ้าจ็อบ” เลือกเดินตามรอยรับราชการเหมือนคุณพ่อ เพราะเกิดมากับสังคมทหาร
หลังเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนสินสมุทร ที่ สัตหีบ บ้านเกิด ก็ตัดสินใจเข้าศึกษาต่อยังโรงเรียนชุมพลทหารเรือ ทร.รุ่น 35 มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2535 หลังร่ำเรียนจบก็เริ่มรับราชการตั้งแต่ปีพ.ศ. 2537 เป็นต้นมาโดยเริ่มจากยศจ่าตรี
ไม่เพียงแต่เคยเล่นให้ทีมอู่ข้าวอู่น้ำที่ตัวเองรับราชการอยู่อย่าง ราชนาวีสโมสร แต่หากใครยังจำได้ คงนึกภาพที่ “เจ้าจ็อบ “ใส่เสื้อรับใช้ทีม บีอีซีเทโรศาสน มาแล้วด้วย และยังเคยเล่นให้กับ ราชประชา ในรายการควีนสคัพ เมื่อครั้งอดีตอีกต่างหาก
ความเก่งอาจที่เรียกว่าเป็นนักเตะพรสวรรค์ ตัวพ่อนั้น การเคยเป็นดาวซัลโว ฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา และยังเคยผ่านสมรภูมิ ทั้งโค้กคัพ , เยาวชนแห่งชาติ , ยามาฮ่า ไทยแลนด์คัพ
ความไม่ธรรมดาดังกล่าวทำให้ “เจ้าจ็อบ” แม้จะเล่นกับทีมไม่ได้โด่งดังอย่าง ราชนาวี แต่ก็มีโอกาสได้ติดทีมชาติ โดยเขารับใช้ชาติในฐานะนักเตะทีมชาติไทย ชุดแรกก็คือ เยาวชน 19 ปี ที่มี “น้าชัช” ชัชชัย พหลแพทย์ เป็นกุนซือพร้อมทีมงานรุ่นใหญ่ไฟกระพริบในอดีต ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป๊ะเรื่องระเบียบวินัย ทั้ง “น้าติ๊ก” สมชาติ ยิ้มศิริ ,อ.สุรินทร์ เข็มเงิน
ยช. 19 ปียุคนั้นถือว่าไทยอุดมไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีหลายราย ทั้ง เทิดศักดิ์ ใจมั่น , เศกสรรค์ ปิตุรัตน์, ธงชัย อัครพงษ์ ,กัณวีร์ ทองชิว , กิตติศักดิ์ ระวังป่า , อนุรักษ์ ศรีเกิด โดยรอบคัดเลือกศึกชิงแชมป์เอเชีย ไทยเป็นเจ้าภาพ แข่งที่ จ.สุพรรณบุรี
ครั้งนั้น “เจ้าจ็อบ” ได้ยืนค้ำในแดนหน้ากับ “จุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด ที่เคยเล่นกองหน้ามาก่อน
แม้จะแน่และเจ๋งขนาดไหน แต่หากเรื่องของ ระเบียบวินัย ไม่ได้ กุนซือ อย่าง “น้าชัช” ก็ไม่เอา และ”เจ้าจ็อบ” ก็เคยโดน “น้าชัช” ตบมาแล้วด้วย
ความเป็นนักเตะเกเร ชอบเบี้ยวซ้อมไม่รับผิดชอบต่อตัวเองและเพื่อนๆ ทำให้เขา”เจ้าจ็อบ”ไม่ถูกเลือกไปทำศึก ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้ายที่ เกาหลีใต้ ด้วย
ชั่วโมงนั้นใครก็คาดกันว่า “เจ้าจ็อบ” น่าจะหมดอนาคตปิดฉากการรับใช้ชาติไปแล้วจากพฤติกรรม แบดบอย ของเขา แต่ ทีมชาติ ยังคงให้โอกาส เพราะยังเห็นในความอัจฉริยะ และคำว่า พรสรรค์ ของนักเตะรายนี้
จากนั้น ตอนเขาอายุ 22 ปีก็ได้หวนคืนทีมชาติอีกหน ด้วยการเล่นแมตซ์พิเศษกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มาทัวร์ไทย ที่สนามศุภฯ
ก่อนที่เขาจะติดทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ไปได้แชมป์ที่ดินแดน อิเหนา ประเทศ อินโดนีเซีย ในซีเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ไทยชิงกับ เจ้าภาพ อินโดฯ วันนั้น ที่สนาม เสนายัน “เจ้าจ็อบ ” เป็นคนซัดให้ทีมชาติไทย นำก่อน 1-0 ก่อนจะโดนตีเสมอ แต่อย่างไร ก็ดี ไทยเราก็ชนะได้ด้วยการดวลจุดโทษ คว้าแชมป์ไปครองสำเร็จ
การรับใช้ชาติของ”เจ้าจ็อบ” เขาติดชุด คิงส์คัพ 3 ครั้ง ไทเกอร์คัพ ชุดอัปยศ ที่ เวียดนาม 1 ครั้ง
ชีวิตวันนี้ “เจ้าจ็อบ “นอกจากจะรับราชการทหารเรือแล้ว เขายังมีดีกรีโค้ชระดับมีไลเซนส์อีกด้วย
แต่สิ่งที่พิเศษแสดงให้เห็นถึงการเกิดมาเป็นนักเตะกีฬาอย่างแท้จริงของเขาก็คือ วันนี้” เจ้าจ็อบ” เป็นนักกอล์ฟ ที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย จัดเป็นทหารเรือ และคนที่มีอดีตเป็นนักฟุตบอลมาก่อน ที่เล่นกีฬา กอล์ฟได้ดีอีกคน อีกคน
เรื่องโดย “สิงห์นก Hk vp 9 “
Add friend ที่ @Siamsport