เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
สองนักฟุตบอลดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดในเวลานี้อย่าง โชแปง-ปาแปง กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่ว และเป็นที่พูดถึงมากขึ้นไปอีกหลังย้ายซบทีมยักษ์ใหญ่อย่างการท่าเรือ เอฟซี แต่การก้าวขึ้นไปยังจุดที่สูงขึ้นโอกาสในการลงสนามของทั้งคู่กลับลดน้อยลง ด้วยการแข่งขันภายในทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นดีกรีทีมชาติ ไม่ก็ประสบการณ์บนลีกสูงสุดอันโชกโชน ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าอาจจะเป็น ก้าวที่ผิดพลาดของทั้งสองคน
แต่ โชแปง กับปาแปง ยืนยันว่าพร้อมสู้!! และพร้อมทำงานหนักในการฝึกซ้อมเพื่อโชว์ฝีเท้าให้เพื่อนร่วมทีม และโค้ชยอมรับให้ได้
“พวกเราทุ่มเท พยายามในช่วงการฝึกซ้อมกับการท่าเรือให้หนัก และให้ดีที่สุด เพื่อที่จะทำให้เรามีโอกาสก้าวขึ้นไปเบียดเป็น 11 ตัวจริงของทีมให้มากขึ้น ตัวจริงของทีมตอนนี้พวกเขาอยู่กับทีมมานาน พวกผมเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาในทีม ก็เข้าใจว่ายังต้องพิสูจน์ตัวเอง กับทีมเดิมเราพิสูจน์ตัวเองมามากพอ จนคนในทีมรวมไปถึงโค้ชให้การยอมรับเรา แต่กับท่าเรือ เราเข้ามาใหม่ แม้ว่าเขาจะเห็นฟอร์มของพวกเรามาบ้าง แต่พอมาซ้อมมาเล่นที่นี่ก็ต้องมาดูฟอร์มกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง”
“เราตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอยากเบียดขึ้นไปเป็นตัวจริงของการท่าเรือให้ได้เร็วที่สุด ภายในฤดูกาลนี้เลยยิ่งดี แต่ก็เข้าใจว่ามันค่อนข้างเป็นงานที่ยาก เพราะแต่ละคนเป็นระดับทีมชาติ มีประสบการณ์ในไทยลีก ซึ่งประสบการณ์เป็นสิ่งที่พวกเรายังด้อยกว่าพี่ๆ ในทีม”
ก่อนการย้ายข้ามฝั่งมาจากโปลิศ เทโร เอฟซี มาค้าแข้งกับการท่าเรือ เอฟซี ทางฝั่งธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีม โปลิศ เทโร วางเป้าหมายส่งสองฝาแฝดไปให้ถึงเจลีก ลีกฟุตบอลเบอร์หนึ่งของเอเชียให้ได้ ซึ่งทั้งสองคนก็มองอนาคตเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งจะได้ออกไปโชว์ฝีเท้านอกประเทศ และหวังลุยไกลไปถึงการได้ค้าแข้งในทวีปยุโรปอีกด้วย
“เส้นทางการค้าแข้งของเราก็อยากออกไปเล่นในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเจลีก หรือออกไปเล่นในยุโรปก็ได้ เพราะตอนนี้ถ้ามองกันจริงๆ นักฟุตบอลชาวไทยที่ออกไปเล่นต่างประเทศก็มีเพียง 3-4 คน ในเจลีกเท่านั้น พวกผมก็มองว่าระดับอย่างพวกพี่เขาตอนนี้ไปได้ถึงเจลีก พวกผมเลยอยากขยับไปทีละสเต็ปก่อน ค่อยๆ พิสูจน์ฝีเท้าของตัวเองไปเรื่อยๆ ถ้าเราไปเล่นได้เจลีกได้ เราก็ค่อยมองต่อไปถึงการได้ออกไปค้าแข้งในยุโรป”
นอกจากฝีเท้าอันโดดเด่นแล้ว หน้าตาอันหล่อเหลาของ” ทิตาธร – ทิตาวีร์ อักษรศรี” ก็เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาโด่งดังไม่แพ้กัน จนมีโอกาสได้รับงานทั้งการถ่ายแบบ หรือการไปเป็นแขกรับเชิญในรายการโทรทัศน์ แน่นอนยิ่งพวกเขาปรากฏตัวนอกสนามฟุตบอลบ่อยครั้งมากขึ้นเพียงใด ก็ย่อมมีเสียงท้วงติง และการตั้งคำถามดั่งที่นักฟุตบอลรุ่นพี่หลายคนเจอมา ถึงความทุ่มเทกับฟุตบอลจะลดน้อยถอยลงไป และไปเอาดีในวงการบันเทิงแทนหรือไม่
“ส่วนตัวมีความกังวลว่าจะมีเสียงจากแฟนฟุตบอลบอกว่าเวลาเรามาถ่ายรายการ มาทำอะไรแบบนี้จะทำให้เราทุ่มเทกับเรื่อง ในสนามฟุตบอลน้อยลงหรือเปล่า แต่พอพวกเราได้มาคิดดูจริงๆ แล้วก็คิดว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกัน ยิ่งพอมาได้สัมผัสจริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้เกี่ยวกัน ทั้งหมดนี้อยู่ที่ตัวเรามากกว่าว่าจะรักษาผลงานหรือฟอร์มการเล่นเอาไว้ได้ไหม ถึงแม้ว่าพวกผมไม่ได้ไปออกรายการ แต่ฟอร์มการเล่น ของพวกผมตกลงไป ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่ดี”
“ซึ่งทั้งหมดนี้พวกผมก็คิดว่าไม่ได้มีผลกระทบต่อการซ้อมฟุตบอลอะไร เพราะปกติการมาถ่ายรายการเวลาไม่ได้ทับกับการซ้อมฟุตบอลอยู่แล้ว การซ้อมฟุตบอลปกติจะมีแค่ช่วงเวลาเดียว เวลาที่เหลือก็เป็นเวลาว่าง พวกเราก็แค่แบ่งเวลามาทำตรงนี้ด้วย การที่พวกผมได้มาออกรายการต่างๆ ก็ทำให้ได้มีโอกาสแฟนกลุ่มใหม่ๆ เข้ามาติดตามดูบ้าง บางทีเขาไม่ได้เห็นพวกเราในสนามฟุตบอล แต่เห็นมาจากในทีวี ก็เคยมีคนมาทักบ้างว่าเคยเห็นจากในทีวี และผมคิดว่าพวกเขาก็น่าจะติดตามต่อไปถึงในสนามฟุตบอล ทำให้ได้เพิ่มแฟนคลับให้กับสโมสรของพวกเราอีกทางด้วย”
ทั้งปาแปง และโชแปง เห็นว่าโอกาสในการนำความบันเทิงเข้ามาผนวกกับวงการฟุตบอลในคอนเซ็ปต์ “สปอร์ตเทนเม้นท์” จะเป็นการเพิ่มโอกาสอันดีในการขยายฐานแฟนบอล และทำให้ฟุตบอลไทยเข้าถึงได้ง่ายขึ้น “การที่เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ เอาความบันเทิงเข้ามาสู่โลกฟุตบอล พวกผมมองว่ามันจะกลายเป็นเรื่องที่ดีในอนาคต คนกลุ่มอื่นก็มีโอกาสหันมาสนใจฟุตบอลมาขึ้น ฟุตบอลจะได้ถูกทำให้เข้าถึงง่ายขึ้น”
ติดตาม ทิตาธร – ทิตาวีร์ อักษรศรี ที่ค้าแข้งกับสโมสรการท่าเรือ เอฟซี และการแข่งขันโตโยต้า ไทยลีก 2020 ตลอดทั้งฤดูกาล ได้ทางฟรีทีวีช่อง NBT 2HD,ช่อง ททบ.5 HD1 , ช่อง 9 MCOT HD , ช่อง 7 HD และ T-Sport
